ซื้อรถแล้วผ่อนรถไม่ไหว ขอคืนรถได้หรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
เมื่อตัดสินใจซื้อรถคันใหม่แล้วพบว่าผ่อนรถไม่ไหว คืนรถได้ไหม เป็นคำถามที่หลายคนกำลังต้องการคำตอบ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่เศรษฐกิจผันผวน ค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้หลายครอบครัวเริ่มมีปัญหาการเงิน บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจทางเลือกและวิธีแก้ปัญหาเมื่อ ผ่อนรถไม่ไหว พร้อมแนวทางที่ช่วยให้คุณกระทบกับสถานะทางการเงินและเครดิตน้อยที่สุด
ผ่อนรถไม่ไหว เกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้หลายคน ผ่อนรถไม่ไหว มีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียรายได้กะทันหัน การลดเงินเดือน การถูกเลิกจ้าง หรือมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นโดยไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาล หนี้สินที่เพิ่มขึ้น และที่สำคัญคือการวางแผนการเงินไม่รอบคอบตั้งแต่ต้น เลือกซื้อรถที่ราคาเกินกำลัง หรือระยะเวลาผ่อนสั้นเกินไปทำให้ค่างวดสูง รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ตามมา เช่น ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าซ่อมบำรุง ซึ่งบางคนไม่ได้คำนวณไว้ล่วงหน้า
ผ่อนรถไม่ไหว คืนรถได้ไหม? แก้ปัญหายังไงให้กระทบตัวเองน้อยที่สุด
หลายคนสงสัยว่าผ่อนรถไม่ไหว คืนรถได้ไหม คำตอบคือสามารถทำได้ แต่มีเงื่อนไขและผลกระทบที่แตกต่างกันไป การคืนรถให้ไฟแนนซ์ คือการแจ้งความประสงค์ต่อสถาบันการเงินว่าต้องการยกเลิกสัญญาเช่าซื้อและส่งมอบรถคืน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดกฎหมาย แต่มีเงื่อนไขที่ควรรู้ โดยเฉพาะเรื่องการเสียค่าส่วนต่างหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับประวัติการชำระค่างวดของคุณ
คืนรถให้ไฟแนนซ์เสียค่าส่วนต่างไหม
กรณีมีประวัติชำระค่างวดสม่ำเสมอ
หากคุณมีประวัติทางการเงินดี ไม่เคยมีประวัติค้างชำระ และตัดสินใจ ผ่อนรถไม่ไหว คืนรถ ข่าวดีคือคุณสามารถคืนรถให้ไฟแนนซ์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าส่วนต่าง
หลังจากคืนรถ ไฟแนนซ์จะนำรถไปประมูลขาย แล้วนำยอดที่ขายได้มาหักกับยอดหนี้คงเหลือ ซึ่งตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค หากคุณมีประวัติการชำระที่ดี ไม่มีการค้างชำระ คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายส่วนต่างที่อาจเกิดขึ้น และไม่ส่งผลเสียต่อเครดิตของคุณ
กรณีมีประวัติชำระค่างวดไม่ดี
หากคุณมีประวัติค้างชำระค่างวด 1-2 เดือนก่อนการแจ้งคืนรถ คุณจำเป็นต้องชำระยอดค้างทั้งหมดก่อน จึงจะสามารถคืนรถโดยไม่เสียค่าส่วนต่างได้
แต่หากค้างชำระเกิน 3 เดือน และไฟแนนซ์เริ่มติดตามทวงถาม หรือดำเนินการยึดรถ หลังจากนำรถไปขายทอดตลาดแล้ว คุณอาจต้องรับผิดชอบค่าส่วนต่างที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม มีทางออกคือการเจรจากับไฟแนนซ์เพื่อขอลดจำนวนเงินหรือขอผ่อนชำระเป็นงวด
ควรตัดสินใจอย่างไร และคืนรถให้ไฟแนนซ์ดีไหม
ก่อนตัดสินใจว่าควรคืนรถหรือไม่ เมื่อผ่อนรถไม่ไหว ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้
1. ความจำเป็นในการใช้รถ
พิจารณาว่ารถจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตแค่ไหน หากจำเป็นต้องใช้รถในการทำงานหรือเดินทาง แต่พบว่า ผ่อนรถไม่ไหว ควรปรึกษาไฟแนนซ์เพื่อหาทางออกอื่น เช่น ขอปรับโครงสร้างหนี้ ขยายระยะเวลาผ่อน หรือลดค่างวดชั่วคราว ก่อนที่จะตัดสินใจคืนรถ
2. ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับรถ
นอกจากค่างวดรถแล้ว ยังมีค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เช่น ค่าน้ำมัน ค่าประกัน ค่าบำรุงรักษา ค่าต่อทะเบียนและ พ.ร.บ. ซึ่งรวมกันแล้วเป็นเงินไม่น้อย หากพบว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นภาระหนักและทำให้ ผ่อนรถไม่ไหว การคืนรถอาจเป็นทางออกที่ดีกว่า
3. สถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน
ทบทวนสถานะทางการเงินในปัจจุบันและคาดการณ์ในอนาคตอันใกล้ โดยนำรายรับและรายจ่ายทั้งหมดมาวิเคราะห์ หากพบว่าการเงินตึงเครียดและมีแนวโน้มจะแย่ลง ควรตัดสินใจคืนรถตั้งแต่เนิ่น ๆ ดีกว่ารอให้สถานการณ์แย่ลงจนส่งผลต่อเครดิตและความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว
4. ประเมินสถานการณ์
ประเมินสถานการณ์ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอีก 3-6 เดือนข้างหน้าว่าจะสามารถผ่อนชำระได้หรือไม่ หากคิดว่ายังมีโอกาสฟื้นตัวทางการเงิน อาจเลือกเจรจากับไฟแนนซ์เพื่อขอพักชำระหนี้ชั่วคราว แต่หากมองไม่เห็นทางออก การคืนรถตั้งแต่ประวัติการชำระยังดีอยู่จะช่วยรักษาเครดิตบูโรและลดภาระทางการเงินได้ดีกว่า
สรุปบทความ
การประสบปัญหาผ่อนรถไม่ไหว คืนรถได้ไหม ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือผิดกฎหมาย แต่เป็นการจัดการปัญหาการเงินอย่างชาญฉลาด ที่สำคัญคือต้องรีบดำเนินการก่อนที่ประวัติการชำระจะเสีย หากคุณกำลังเผชิญกับภาวะการเงินตึงเครียดเนื่องจากค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิส อาจเป็นทางเลือกที่ช่วยคุณได้ ด้วยการอนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง* วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท* ใช้เอกสารน้อย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน พร้อมเคียงข้างคุณในทุกสถานการณ์เพื่อให้คุณจัดการเรื่องเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป