วิธีเช็ครายชื่อและบัญชีมิจฉาชีพ ออนไลน์ทำอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ

14/12/2566
การเงิน-ธุรกิจ

ตอบครบ! เช็ครายชื่อมิจฉาชีพ

 

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มิจฉาชีพในปัจจุบันมักจะมีมุกใหม่ ๆ มาใช้ในการหลอกลวงเราสารพัด เช่น ทำทีเป็นแอปกู้เงินถูกกฎหมาย หลอกให้โอนเงินค่าสินค้าแต่ไม่ส่งสินค้า หรือส่งของไม่ตรงปกมาให้ โทรมาทวงหนี้หรือทวงค่าพัสดุ เป็นต้น ทำให้มีคนจำนวนไม่น้อยเลย ที่ตกเป็นเหยื่อและโดนหลอกจนสูญเสียเงินไปไม่น้อย ดังนั้นเราไปดูกันดีกว่าว่า วิธีเช็คบัญชีธนาคารมิจฉาชีพ และวิธีเช็ครายชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ต้องทำยังไงบ้าง

บัญชีม้าคืออะไร 

บัญชีม้า คือบัญชีธนาคารที่ถูกใช้เป็นตัวกลางในการรับโอนหรือถ่ายเทเงินที่ได้มาจากการกระทำผิด โดยเจ้าของบัญชีมักไม่ใช่ผู้กระทำผิดตัวจริง แต่เป็นบุคคลที่ถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชี หรือถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชี วัตถุประสงค์หลักของบัญชีม้าคือการปกปิดเส้นทางการเงินและตัวตนที่แท้จริงของมิจฉาชีพ ทำให้ยากต่อการติดตามและจับกุม

 

เตือนภัย เงินกู้ออนไลน์

มิจฉาชีพใช้บัญชีเหล่านี้ได้อย่างไร

มิจฉาชีพอาศัยบัญชีม้าเป็นเครื่องมือสำคัญในการหลอกลวง โดยมักทำงานเป็นขบวนการและใช้บัญชีหลายบัญชีต่อเนื่องกัน พวกเขาจะโอนเงินสลับไปมาระหว่างหลายบัญชีเพื่อให้ยากต่อการติดตาม บางกรณีอาจว่าจ้างบุคคลทั่วไป โดยเฉพาะวัยรุ่นหรือผู้สูงอายุ ให้เปิดบัญชีธนาคารแลกกับเงินจำนวนหนึ่ง หรืออาจใช้วิธีการสวมรอยโดยขโมยข้อมูลส่วนตัวไปเปิดบัญชีออนไลน์โดยที่เจ้าของข้อมูลไม่รู้ตัว

วิธีเช็ครายชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน

เนื่องจากในปัจจุบัน การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทำให้มิจฉาชีพเล็งเห็นช่องทางในการหลอกลวงเงิน ไม่ว่าจะเป็นการสั่งของแล้วไม่ส่งให้ หรือส่งของที่ไม่ตรงปกมาให้ ดังนั้น ก่อนที่เราจะตัดสินใจโอนเงินทุกครั้ง จึงควรตรวจสอบรายชื่อมิจฉาชีพ และเช็คบัญชีมิจฉาชีพให้ดีเสียก่อน โดยวิธีเช็ครายชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ที่สะดวก รวดเร็ว และรู้ผลได้ทันที มีดังนี้

1. เช็คผ่านเว็บไซต์ blacklistseller

เว็บไซต์ blacklistseller เป็นเว็บไซต์สำหรับเช็ครายชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะมีการระบุข้อมูลของมิจฉาชีพไว้อย่างละเอียด ทั้งชื่อบัญชีมิจฉาชีพ รายชื่อมิจฉาชีพ รวมถึงสามารถเช็คเลขบัญชีของมิจฉาชีพได้ด้วย โดยข้อมูลเหล่านี้จะได้มาจากการที่ผู้ใช้งาน ร่วมกันสร้างรายชื่อเพื่อเตือนภัยสังคม นอกจากนี้ระบบยังมีการอัปเดตฐานข้อมูลที่นำเข้าใหม่ทุกต้นชั่วโมง

2. เช็คผ่านเว็บไซต์ Checkgon

Checkgon เป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณสามารถเช็คบัญชีมิจฉาชีพได้อย่างสะดวก โดยรวบรวมรายชื่อผู้ขายที่มีประวัติการโกงหรือหลอกลวงในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ วิธีใช้งานก็ง่าย เพียงพิมพ์ข้อมูลที่ต้องการตรวจสอบลงในช่องค้นหา เช่น ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ หรือเลขบัญชี หากพบข้อมูลที่ตรงกัน ระบบจะแสดงรายละเอียดพร้อมประวัติการโกงให้ทราบทันที

3. เช็คผ่านเว็บไซต์ Chaladohn

Chaladohn เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเช็คบัญชีมิจฉาชีพได้อย่างง่ายดาย เว็บไซต์นี้เปิดให้ผู้ใช้งานรายงานและแชร์ประสบการณ์การถูกหลอกลวง พร้อมทั้งข้อมูลของมิจฉาชีพ ทำให้เป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีการอัปเดตอยู่เสมอ คุณสามารถค้นหาข้อมูลได้จากชื่อ เบอร์โทรศัพท์ บัญชีธนาคาร หรือแม้แต่ชื่อร้านค้าออนไลน์ที่สงสัย

4. ตรวจสอบรายชื่อมิจฉาชีพผ่าน Google

อีกหนึ่งวิธีที่สามารถเช็คได้ง่าย ๆ เลยก็คือ การนำชื่อคนขาย หรือชื่อของเจ้าของบัญชีไปค้นหาบน Google เพราะเมื่อคุณกดค้นหาไป แล้วชื่อนั้น ๆ มีประวัติไม่ดี ก็จะขึ้นเตือนภัยมาให้เราเห็นในทันที

5. เช็คผ่านเบอร์โทรศัพท์ 

มิจฉาชีพอีกประเภทหนึ่งที่กำลังระบาดหนักอยู่ในตอนนี้ก็คือ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยวิธีการเช็คก็สามารถทำได้ง่ายมาก เพียงแค่คุณโหลดแอปพลิเคชัน Whoscall, Truecaller หรือ Call Blocker ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบคนโกงได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังสามารถแจ้งข้อมูลเบอร์มิจฉาชีพเพิ่มเข้าไปในระบบได้อีกด้วย 

6. เช็คมิจฉาชีพผ่าน social media ต่าง ๆ

 นอกจากการเช็ครายชื่อมิจฉาชีพผ่าน Google แล้ว อีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเช็คได้และมีรายละเอียดครบถ้วนไม่แพ้กันก็คือ การเช็คผ่าน Social Media ต่าง ๆ เพราะผู้ใช้งาน Social Media ที่เคยตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ จะมีการนำข้อมูลมาแชร์เอาไว้เพื่อเตือนภัยผู้ใช้งานท่านอื่น ๆ ซึ่งนอกจากการเตือนภัยบัญชีมิจฉาชีพแล้ว ยังรวมถึงการเตือนภัยเงินกู้ออนไลน์ และเตือนภัยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ด้วยเช่นกัน

 

เตือนภัย เงินกู้ออนไลน์

หากโดนหลอกโอนเงินควรทำอย่างไร

หากคุณพลาดพลั้งและตกเป็นเหยื่อการเช็คบัญชีมิจฉาชีพไม่ทัน สิ่งสำคัญคือต้องรีบดำเนินการทันที เริ่มจากรวบรวมหลักฐานทั้งหมด เช่น ชื่อและเลขที่บัญชีของมิจฉาชีพ ธนาคารปลายทาง ประวัติการสนทนา และข้อมูลการโอนเงิน จากนั้นรีบติดต่อธนาคารของคุณเพื่อแจ้งเหตุและขออายัดเงิน ซึ่งควรทำภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากโอนเงิน พร้อมกันนั้นให้นำหลักฐานไปแจ้งความกับตำรวจเพื่อดำเนินคดีต่อไป

โอนเงินไปแล้วจะได้คืนไหม

โอกาสในการได้เงินคืนหลังจากถูกมิจฉาชีพหลอกลวงนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะความรวดเร็วในการแจ้งเหตุและขออายัดเงิน หากคุณรีบแจ้งธนาคารทันทีหลังจากโอนเงิน โอกาสที่เงินจะยังอยู่ในระบบและสามารถอายัดได้มีมากกว่า แต่หากเวลาผ่านไปนานหลายวันหรือมิจฉาชีพได้ถอนเงินออกไปแล้ว โอกาสในการได้เงินคืนก็จะน้อยลง ดังนั้น การเช็คบัญชีมิจฉาชีพก่อนโอนเงินจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเอง

 

เตือนภัย เงินกู้ออนไลน์

วิธีสังเกตพฤติกรรมมิจฉาชีพ

การเช็คบัญชีมิจฉาชีพเป็นเพียงหนึ่งในวิธีป้องกัน แต่การรู้จักสังเกตพฤติกรรมที่น่าสงสัยก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ลองสังเกตสัญญาณเตือนเหล่านี้

  • ราคาถูกผิดปกติ - มิจฉาชีพมักใช้ราคาล่อใจเพื่อให้เหยื่อรีบตัดสินใจโดยไม่ทันคิดให้รอบคอบ
  • เร่งรัดให้โอนเงิน - การกดดันให้ตัดสินใจเร็ว ๆ โดยอ้างว่าสินค้ากำลังจะหมด หรือมีคนจองต่อคิวรออยู่
  • ไม่ยอมพบหน้า - หากเป็นการซื้อขายในพื้นที่เดียวกันแต่ผู้ขายปฏิเสธการพบหน้า อาจเป็นสัญญาณอันตราย
  • ใช้บัญชีที่เพิ่งเปิดใหม่ - บัญชีโซเชียลมีเดียหรือแพลตฟอร์มขายของที่เพิ่งเปิดใหม่ มีรูปน้อย ไม่มีประวัติการขาย
  • ขอข้อมูลส่วนตัวมากเกินจำเป็น - เช่น รหัสบัตรประชาชน หรือรูปถ่ายบัตรประชาชนทั้งใบโดยไม่มีเหตุผลจำเป็น
  • บัญชีธนาคารไม่ตรงกับชื่อร้าน - หากชื่อบัญชีที่ให้โอนเงินไม่ตรงกับชื่อผู้ขายหรือร้านค้า ควรตรวจสอบให้ดี

สรุปบทความ

อย่างที่บอกว่า ในปัจจุบันมีมิจฉาชีพแฝงตัวมาหลากหลายรูปแบบ ทางที่ดีก่อนจะตัดสินใจโอนเงินหรือทำธุรกรรมใด ๆ ก็ควรจะทำการตรวจสอบให้เรียบร้อยดีเสียก่อน โดยสามารถนำวิธีเช็ครายชื่อมิจฉาชีพออนไลน์ที่เรารวบรวมมาไปใช้ได้เลย
 

Tags: พรอมิสเตือนภัย แอปกู้เงิน

พร้อมรู้กับพรอมิส