ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง?
ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเพื่อการลงทุน การออม หรือแม้แต่การเก็งกำไร แต่คำถามสำคัญที่นักลงทุนและผู้สนใจทองคำมักสงสัยคือ "ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง?" ในบทความนี้สินเชื่อพรอมิสจะมาแนะนำวิธีวิเคราะห์ตลาดทองคำ แนวโน้มราคา และกลยุทธ์การออมทอง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองวันนี้
ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่
1. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา
ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีผลโดยตรงต่อราคาทองในประเทศ หากค่าเงินบาทอ่อนตัว ราคาทองในไทยมักจะปรับตัวสูงขึ้น
2. อัตราเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อที่สูงทำให้มูลค่าเงินลดลง ซึ่งโดยปกติเงินจะเฟ้อขึ้นทุกปีอยู่แล้วประมาณปีละ 1 - 3% นักลงทุนมักซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่กัดกินกำลังซื้อของเงินสด
3. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนมักหันไปถือทองคำมากขึ้น ทำให้ราคาทองพุ่งสูง เนื่องจาก
3.1 ลดต้นทุนโอกาสในการถือทอง
เมื่อดอกเบี้ยสูง นักลงทุนสามารถนำเงินไปฝากธนาคารหรือซื้อพันธบัตรเพื่อรับผลตอบแทนที่แน่นอนได้
แต่เมื่อ ดอกเบี้ยต่ำ ผลตอบแทนจากสินทรัพย์เหล่านี้ลดลง การถือทองคำจึงดูคุ้มค่าขึ้น เพราะไม่มีต้นทุนค่าเสียโอกาสสูงเหมือนเดิม
3.2 ทำให้ค่าเงินอ่อนตัว
อัตราดอกเบี้ยต่ำมักทำให้ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะนักลงทุนถอนเงินออกจากสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์และมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ราคาทองซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์จะ ปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนที่ใช้สกุลเงินอื่นสามารถซื้อทองได้ในราคาถูกลง
3.3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าปกติ
ดอกเบี้ยต่ำมักมาพร้อมกับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การพิมพ์เงินเพิ่มหรือการปล่อยสินเชื่อในปริมาณมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ เงินเฟ้อ
นักลงทุนจึงหันมาถือทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มักรักษามูลค่าได้ดีในภาวะที่ค่าเงินลดลง
เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น สินเชื่อพรอมิสจะลองตัวอย่างสถานการณ์จริงมาให้ทุกคนได้ดูกัน
- ปี 2008 (วิกฤตเศรษฐกิจโลก): ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับลดดอกเบี้ยลงใกล้ 0% และใช้มาตรการ QE (Quantitative Easing) ทำให้ราคาทองพุ่งจากประมาณ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2008 ไปแตะ 1,900 ดอลลาร์ในปี 2011
- ปี 2020 (โควิด-19): Fed ปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินเหลือใกล้ 0% ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะ 2,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยง
สรุปได้ว่าเมื่อดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนโอกาสในการถือทองลดลง ค่าเงินมักอ่อนตัว และมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนเลือกถือทองมากขึ้นเพื่อป้องกันความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
4. สงครามและความขัดแย้งทางการเมือง
เมื่อเกิดสงคราม นักลงทุนมักมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำจึงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น
5. ระบบมาตรฐานทองคำและเงินดอลลาร์
การเปลี่ยนแปลงทางการเงิน เช่น การยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา
วิธีพิจารณาว่าราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง
แน่นอนว่าการซื้อทองคำทุกคนย่อมคาดหวังว่าราคาของทองคำจะต้องสูงขึ้นกว่าวันที่ซื้อ ซึ่งการตัดสินใจว่าราคาทองคำวันนี้แพงหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น
1. เปรียบเทียบกับราคาทองย้อนหลัง
หากราคาทองสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 3 - 6 เดือนที่ผ่านมา อาจพิจารณาว่าอยู่ในช่วงราคาสูง
2. วิเคราะห์แนวโน้มตลาดทองคำ
ใช้เครื่องมือทาง Technical วิเคราะห์แนวโน้มตลาดทองคำ หากมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ยังไม่มีสัญญาณให้ขาย ราคาปัจจุบันอาจจะยังไม่แพงเมื่อเทียบกับอนาคต แต่ทั้งนี้ก็อาจจะไม่ใช่จุดซื้อเช่นกัน หากจะใช้ Technical แล้วควรกำหนดจุดซื้อจุดขายให้ชัดเจนด้วย เพราะการใช้ Technical นั้นผิดได้เสมอ การ Cut loss จึงเป็นเรื่องสำคัญ
3. เปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ
หากราคาทองปรับตัวขึ้นแต่ยังต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ก็อาจยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน วันนี้สินเชื่อพรอมิสจะมาแนะนำการดูอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันและแนวโน้มในอดีตแบบง่ายๆ ให้ คือ การตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อรายปี (CPI - Consumer Price Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ โดยเปรียบเทียบกับช่วง 5-10 ปีย้อนหลัง หากเงินเฟ้อสูงขึ้นต่อเนื่อง ทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้นตาม
ตัวอย่าง: หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาคือ 3% ต่อปี แต่ราคาทองเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% ต่อปี แสดงว่าทองคำเติบโตเร็วกว่าค่าเงินที่ลดลง ซึ่งอาจหมายความว่ามีปัจจัยอื่นๆ นอกจากเงินเฟ้อที่ผลักดันราคาทอง หรืออาจเกิดเป็นฟองสบู่ขึ้นก็เป็นได้
4. พิจารณาผลกระทบจากสงครามและเศรษฐกิจโลก
หากมีความขัดแย้งรุนแรง ราคาทองมักพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากเป็นผลกระทบชั่วคราว ราคาทองก็อาจจะดิ่งลงมาในเวลาต่อมา
ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ราคาทองคำก่อนตัดสินใจซื้อหรือขาย
1. อย่าตัดสินใจจากราคาทองวันนี้เพียงอย่างเดียว
ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่าดูแค่ราคาปัจจุบัน ควรพิจารณาแนวโน้มในอดีต 3-6 เดือน เป็นอย่างน้อย
2. ระวังปัจจัยระยะสั้นที่ทำให้ราคาผันผวน
ข่าวสารเศรษฐกิจ สงคราม หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ อาจทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นราคาอาจปรับตัวกลับเข้าสู่แนวโน้มปกติ
3. อย่าใช้เงินเย็นทั้งหมดลงทุนในทอง
ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาก็มีความผันผวน ไม่ควรลงทุนทั้งหมดในทองเพียงอย่างเดียว ควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นด้วย
4. ติดตามนโยบายของธนาคารกลางและอัตราดอกเบี้ย
หากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงๆ ราคาทองมักจะปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตรหรือสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น
5. ตรวจสอบค่าเงินบาทและอัตราแลกเปลี่ยน
ราคาทองในไทยขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาทองในประเทศอาจลดลง แม้ว่าราคาทองโลกจะเพิ่มขึ้น
6. เลือกช่องทางซื้อขายที่เชื่อถือได้
ควรซื้อจากร้านทองที่มีชื่อเสียงหรือแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรอง หลีกเลี่ยงการซื้อทองคำจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเพราะอาจถูกโกงหรือได้ทองปลอม
7. หลีกเลี่ยงการซื้อขายตามอารมณ์หรือกระแสตลาด
นักลงทุนหลายคนซื้อทองตอนที่ราคาพุ่งสูงเพราะกลัวตกรถ และขายตอนที่ราคาตกเพราะกลัวขาดทุน ควรตั้งเป้าหมายระยะยาวและใช้กลยุทธ์ลงทุนที่มีเหตุผล
แนวทางออมทองอย่างคุ้มค่า
หากคุณต้องการลงทุนทองคำแต่ไม่แน่ใจว่าควรซื้อตอนไหน การออมทองแบบ DCA หรือการซื้อเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือนเป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้คุณสะสมทองคำทีละเล็กน้อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของราคา โดยสินเชื่อพรอมิสขอแนะนำวิธีออมทองง่ายๆ 3 รูปแบบ ได้แก่
1. ออมทองผ่านร้านค้าทอง
หลายร้านค้าทองมีบริการออมทองรายเดือน โดยสามารถซื้อทองตามงบที่คุณกำหนดได้ รวมถึงมีระบบตัดเงินทุกเดือนและซื้อเฉลี่ยทุกวัน
2. ออมทองผ่านแอปพลิเคชัน
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้คุณสามารถออมทองแบบออนไลน์ได้สะดวกขึ้น
3. ซื้อทองแท่งสะสมเอง
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือทองจริง สามารถซื้อเป็นกรัมหรือบาททองและเก็บไว้เอง
เกร็ดความรู้
เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นจนถึงทุกวันนี้คือ การยกเลิกมาตรฐานทองคำของที่สหรัฐฯ
ก่อนปี 1971 สหรัฐฯ ใช้ระบบ มาตรฐานทองคำ (Gold Standard) ซึ่งหมายความว่าเงินดอลลาร์มีมูลค่าผูกกับทองคำ และสามารถแลกเป็นทองได้ในอัตราคงที่ อย่างไรก็ตาม ในปี 1971 ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ได้ประกาศ ยกเลิกมาตรฐานทองคำ (Nixon Shock) ส่งผลให้เงินดอลลาร์ไม่ได้ผูกกับทองอีกต่อไป และนำไปสู่การขึ้นลงของราคาทองตามกลไกตลาดแทน
การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้
- ดอลลาร์กลายเป็น Fiat Currency ที่ไม่มีทองคำหนุนหลัง
- ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นจากเดิมที่ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับปัจจุบันที่สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (04/04/2025)
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราผันผวนมากขึ้น
สรุป
ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง? คำตอบขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคลและปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น หากคุณต้องการลงทุนในทองคำ การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดทองคำและใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การใช้ Technical ซื้อขายแบบมี Stoploss หรือ DCA ออมทอง จะช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดทองคำก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว
แต่ไม่ว่าราคาทองวันนี้จะเป็นอย่างไร เราก็ยังต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป และหากเกิดปัญหาทางการเงิน แนะนำให้สมัครสินเชื่อพรอมิส เงินกู้ถูกกฎหมายที่อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง* ให้คุณมีเงินทันใช้ แก้ปัญหาของคุณได้อย่างทันท่วงที ด้วยจุดเด่นของสินเชื่อพรอมิส
- อนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง*
- สมัครง่ายได้ทุกที่
- วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท*
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป