ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง?

08/05/2568
การเงิน-ธุรกิจ

01ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง

ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะเพื่อการลงทุน การออม หรือแม้แต่การเก็งกำไร แต่คำถามสำคัญที่นักลงทุนและผู้สนใจทองคำมักสงสัยคือ "ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง?" ในบทความนี้สินเชื่อพรอมิสจะมาแนะนำวิธีวิเคราะห์ตลาดทองคำ แนวโน้มราคา และกลยุทธ์การออมทอง เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองวันนี้

ราคาทองคำได้รับอิทธิพลจากหลายปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่

1. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐมีผลโดยตรงต่อราคาทองในประเทศ หากค่าเงินบาทอ่อนตัว ราคาทองในไทยมักจะปรับตัวสูงขึ้น

2. อัตราเงินเฟ้อ

เงินเฟ้อที่สูงทำให้มูลค่าเงินลดลง ซึ่งโดยปกติเงินจะเฟ้อขึ้นทุกปีอยู่แล้วประมาณปีละ 1 - 3% นักลงทุนมักซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อที่กัดกินกำลังซื้อของเงินสด

3. อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง

เมื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ นักลงทุนมักหันไปถือทองคำมากขึ้น ทำให้ราคาทองพุ่งสูง เนื่องจาก

3.1 ลดต้นทุนโอกาสในการถือทอง

เมื่อดอกเบี้ยสูง นักลงทุนสามารถนำเงินไปฝากธนาคารหรือซื้อพันธบัตรเพื่อรับผลตอบแทนที่แน่นอนได้
แต่เมื่อ ดอกเบี้ยต่ำ ผลตอบแทนจากสินทรัพย์เหล่านี้ลดลง การถือทองคำจึงดูคุ้มค่าขึ้น เพราะไม่มีต้นทุนค่าเสียโอกาสสูงเหมือนเดิม

3.2 ทำให้ค่าเงินอ่อนตัว

อัตราดอกเบี้ยต่ำมักทำให้ ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เพราะนักลงทุนถอนเงินออกจากสินทรัพย์สกุลเงินดอลลาร์และมองหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า ราคาทองซึ่งซื้อขายในสกุลดอลลาร์จะ ปรับตัวสูงขึ้น เพราะนักลงทุนที่ใช้สกุลเงินอื่นสามารถซื้อทองได้ในราคาถูกลง

3.3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ทำให้เกิดเงินเฟ้อขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าปกติ

ดอกเบี้ยต่ำมักมาพร้อมกับ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น การพิมพ์เงินเพิ่มหรือการปล่อยสินเชื่อในปริมาณมาก ซึ่งอาจนำไปสู่ เงินเฟ้อ

นักลงทุนจึงหันมาถือทองเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ เนื่องจากทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มักรักษามูลค่าได้ดีในภาวะที่ค่าเงินลดลง

เพื่อให้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น สินเชื่อพรอมิสจะลองตัวอย่างสถานการณ์จริงมาให้ทุกคนได้ดูกัน

  • ปี 2008 (วิกฤตเศรษฐกิจโลก): ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับลดดอกเบี้ยลงใกล้ 0% และใช้มาตรการ QE (Quantitative Easing) ทำให้ราคาทองพุ่งจากประมาณ 800 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในปี 2008 ไปแตะ 1,900 ดอลลาร์ในปี 2011
  • ปี 2020 (โควิด-19): Fed ปรับลดดอกเบี้ยฉุกเฉินเหลือใกล้ 0% ราคาทองคำพุ่งขึ้นแตะ 2,070 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนแห่เข้าซื้อทองเพื่อป้องกันความเสี่ยง


สรุปได้ว่าเมื่อดอกเบี้ยต่ำ ต้นทุนโอกาสในการถือทองลดลง ค่าเงินมักอ่อนตัว และมีความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ทำให้นักลงทุนเลือกถือทองมากขึ้นเพื่อป้องกันความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

4. สงครามและความขัดแย้งทางการเมือง

เมื่อเกิดสงคราม นักลงทุนมักมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ทองคำจึงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น

5. ระบบมาตรฐานทองคำและเงินดอลลาร์

การเปลี่ยนแปลงทางการเงิน เช่น การยกเลิกมาตรฐานทองคำในปี 1971 ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตลอดเวลา

วิธีพิจารณาว่าราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง

แน่นอนว่าการซื้อทองคำทุกคนย่อมคาดหวังว่าราคาของทองคำจะต้องสูงขึ้นกว่าวันที่ซื้อ ซึ่งการตัดสินใจว่าราคาทองคำวันนี้แพงหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น

1. เปรียบเทียบกับราคาทองย้อนหลัง

หากราคาทองสูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 3 - 6 เดือนที่ผ่านมา อาจพิจารณาว่าอยู่ในช่วงราคาสูง

2. วิเคราะห์แนวโน้มตลาดทองคำ

ใช้เครื่องมือทาง Technical วิเคราะห์แนวโน้มตลาดทองคำ หากมีแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ยังไม่มีสัญญาณให้ขาย ราคาปัจจุบันอาจจะยังไม่แพงเมื่อเทียบกับอนาคต แต่ทั้งนี้ก็อาจจะไม่ใช่จุดซื้อเช่นกัน หากจะใช้ Technical แล้วควรกำหนดจุดซื้อจุดขายให้ชัดเจนด้วย เพราะการใช้ Technical นั้นผิดได้เสมอ การ Cut loss จึงเป็นเรื่องสำคัญ

3. เปรียบเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ

หากราคาทองปรับตัวขึ้นแต่ยังต่ำกว่าการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ ก็อาจยังคงเป็นสินทรัพย์ที่น่าลงทุน วันนี้สินเชื่อพรอมิสจะมาแนะนำการดูอัตราเงินเฟ้อปัจจุบันและแนวโน้มในอดีตแบบง่ายๆ ให้ คือ การตรวจสอบอัตราเงินเฟ้อรายปี (CPI - Consumer Price Index) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการ โดยเปรียบเทียบกับช่วง 5-10 ปีย้อนหลัง หากเงินเฟ้อสูงขึ้นต่อเนื่อง ทองคำมักจะปรับตัวสูงขึ้นตาม


ตัวอย่าง: หากอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 5 ปีที่ผ่านมาคือ 3% ต่อปี แต่ราคาทองเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 8% ต่อปี แสดงว่าทองคำเติบโตเร็วกว่าค่าเงินที่ลดลง ซึ่งอาจหมายความว่ามีปัจจัยอื่นๆ นอกจากเงินเฟ้อที่ผลักดันราคาทอง หรืออาจเกิดเป็นฟองสบู่ขึ้นก็เป็นได้

4. พิจารณาผลกระทบจากสงครามและเศรษฐกิจโลก

หากมีความขัดแย้งรุนแรง ราคาทองมักพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่หากเป็นผลกระทบชั่วคราว ราคาทองก็อาจจะดิ่งลงมาในเวลาต่อมา

ข้อควรระวังในการวิเคราะห์ราคาทองคำก่อนตัดสินใจซื้อหรือขาย

1. อย่าตัดสินใจจากราคาทองวันนี้เพียงอย่างเดียว

ราคาทองคำเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อย่าดูแค่ราคาปัจจุบัน ควรพิจารณาแนวโน้มในอดีต 3-6 เดือน เป็นอย่างน้อย

2. ระวังปัจจัยระยะสั้นที่ทำให้ราคาผันผวน

ข่าวสารเศรษฐกิจ สงคราม หรือวิกฤตการณ์ต่างๆ อาจทำให้ราคาทองพุ่งขึ้นหรือลงอย่างรวดเร็ว แต่หลังจากนั้นราคาอาจปรับตัวกลับเข้าสู่แนวโน้มปกติ

3. อย่าใช้เงินเย็นทั้งหมดลงทุนในทอง

ทองคำเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ราคาก็มีความผันผวน ไม่ควรลงทุนทั้งหมดในทองเพียงอย่างเดียว ควรกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์ประเภทอื่นด้วย

4. ติดตามนโยบายของธนาคารกลางและอัตราดอกเบี้ย

หากธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ปรับขึ้นดอกเบี้ยแรงๆ ราคาทองมักจะปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนหันไปลงทุนในพันธบัตรหรือสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น

5. ตรวจสอบค่าเงินบาทและอัตราแลกเปลี่ยน

ราคาทองในไทยขึ้นอยู่กับค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลลาร์ หากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ราคาทองในประเทศอาจลดลง แม้ว่าราคาทองโลกจะเพิ่มขึ้น

6. เลือกช่องทางซื้อขายที่เชื่อถือได้

ควรซื้อจากร้านทองที่มีชื่อเสียงหรือแพลตฟอร์มที่ได้รับการรับรอง หลีกเลี่ยงการซื้อทองคำจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือเพราะอาจถูกโกงหรือได้ทองปลอม

7. หลีกเลี่ยงการซื้อขายตามอารมณ์หรือกระแสตลาด

นักลงทุนหลายคนซื้อทองตอนที่ราคาพุ่งสูงเพราะกลัวตกรถ และขายตอนที่ราคาตกเพราะกลัวขาดทุน ควรตั้งเป้าหมายระยะยาวและใช้กลยุทธ์ลงทุนที่มีเหตุผล

แนวทางออมทองอย่างคุ้มค่า

หากคุณต้องการลงทุนทองคำแต่ไม่แน่ใจว่าควรซื้อตอนไหน การออมทองแบบ DCA หรือการซื้อเฉลี่ยเท่ากันทุกเดือนเป็นทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้คุณสะสมทองคำทีละเล็กน้อยโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความผันผวนของราคา โดยสินเชื่อพรอมิสขอแนะนำวิธีออมทองง่ายๆ 3 รูปแบบ ได้แก่

1. ออมทองผ่านร้านค้าทอง

หลายร้านค้าทองมีบริการออมทองรายเดือน โดยสามารถซื้อทองตามงบที่คุณกำหนดได้ รวมถึงมีระบบตัดเงินทุกเดือนและซื้อเฉลี่ยทุกวัน

2. ออมทองผ่านแอปพลิเคชัน

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ช่วยให้คุณสามารถออมทองแบบออนไลน์ได้สะดวกขึ้น

3. ซื้อทองแท่งสะสมเอง

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถือทองจริง สามารถซื้อเป็นกรัมหรือบาททองและเก็บไว้เอง

เกร็ดความรู้

เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ราคาทองพุ่งสูงขึ้นจนถึงทุกวันนี้คือ การยกเลิกมาตรฐานทองคำของที่สหรัฐฯ02ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง

ก่อนปี 1971 สหรัฐฯ ใช้ระบบ มาตรฐานทองคำ (Gold Standard) ซึ่งหมายความว่าเงินดอลลาร์มีมูลค่าผูกกับทองคำ และสามารถแลกเป็นทองได้ในอัตราคงที่ อย่างไรก็ตาม ในปี 1971 ประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ได้ประกาศ ยกเลิกมาตรฐานทองคำ (Nixon Shock) ส่งผลให้เงินดอลลาร์ไม่ได้ผูกกับทองอีกต่อไป และนำไปสู่การขึ้นลงของราคาทองตามกลไกตลาดแทน


การยกเลิกมาตรฐานทองคำทำให้

  • ดอลลาร์กลายเป็น Fiat Currency ที่ไม่มีทองคำหนุนหลัง 
  • ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นจากเดิมที่ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สู่ระดับปัจจุบันที่สูงกว่า 3,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (04/04/2025) 
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราผันผวนมากขึ้น

สรุป

ราคาทองวันนี้แพงไปหรือยัง? คำตอบขึ้นอยู่กับมุมมองของแต่ละบุคคลและปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น หากคุณต้องการลงทุนในทองคำ การวิเคราะห์แนวโน้มตลาดทองคำและใช้กลยุทธ์ต่างๆ เช่น การใช้ Technical ซื้อขายแบบมี Stoploss หรือ DCA ออมทอง จะช่วยให้คุณบริหารความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น การติดตามข่าวสารเกี่ยวกับตลาดทองคำก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

 

แต่ไม่ว่าราคาทองวันนี้จะเป็นอย่างไร เราก็ยังต้องดำเนินชีวิตกันต่อไป และหากเกิดปัญหาทางการเงิน แนะนำให้สมัครสินเชื่อพรอมิส เงินกู้ถูกกฎหมายที่อนุมัติไวใน 1 ชั่วโมง* ให้คุณมีเงินทันใช้ แก้ปัญหาของคุณได้อย่างทันท่วงที ด้วยจุดเด่นของสินเชื่อพรอมิส

 

  • อนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง*
  • สมัครง่ายได้ทุกที่
  • วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท*

 

กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป

Tags: ราคาทอง สะสมทองคำ ออมทอง

พร้อมรู้กับพรอมิส