เงินไม่พอใช้ แก้ปัญหาอย่างไรให้หมดกังวลและจบปัญหานี้
"สิ้นเดือนแล้ว เงินไม่พอใช้อีกแล้ว" เป็นประโยคที่หลายคนคุ้นเคย ไม่ว่าจะมีเงินเดือนมากหรือน้อย ปัญหาเงินไม่พอใช้เป็นปัญหาที่ทุกคนอาจเจอได้ หากไม่มีการบริหารจัดการการเงินที่ดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ทำให้เกิดความเครียดและวิตกกังวล มาเรียนรู้วิธีแก้ไขปัญหาเงินไม่พอใช้ เพื่อให้มีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นกันดีกว่า
7 วิธีแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้
ปัญหาเงินไม่พอใช้มักเกิดจากการไม่มีระบบจัดการเงินที่ดีพอ ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการวางแผนและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่าย โดยมีวิธีการแก้ไขปัญหาที่ช่วยให้คุณมีเงินพอใช้และเหลือเก็บ ดังนี้
1. บันทึกทุกค่าใช้จ่ายอย่างครบถ้วน
การรู้ว่าเงินของคุณไปไหนบ้างคือก้าวแรกของการแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้ โดยเริ่มจดบันทึกทุกรายจ่าย แม้เป็นค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ค่ากาแฟเช้า 60 บาท ค่าอาหารกลางวัน 70 บาท หรือค่าขนมระหว่างวัน 30 บาท เมื่อรวมกันแล้วอาจเป็นจำนวนที่น่าตกใจ คุณสามารถใช้แอปบันทึกค่าใช้จ่ายหรือจดลงสมุดก็ได้ สิ่งสำคัญคือทำให้สม่ำเสมอ
2. ตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
เมื่อรู้ว่าเงินไปไหนบ้างแล้ว ให้พิจารณาตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก เช่น ค่าสมาชิกแอปที่ไม่ค่อยได้ใช้ ค่าสั่งอาหารเดลิเวอรี่ที่มาพร้อมค่าส่งแพง หรือการซื้อกาแฟแบรนด์ดังทุกเช้า ลองเปลี่ยนมาชงกาแฟเองที่บ้านหรือที่ออฟฟิศ ทำอาหารกล่องไปทำงาน จะช่วยประหยัดได้มาก ถ้าสามารถลดรายจ่ายเหล่านี้ได้ ปัญหาเงินไม่พอใช้ก็จะค่อย ๆ บรรเทาลง
3. หาช่องทางที่ช่วยทำให้มีรายได้เพิ่ม
นอกจากการลดรายจ่ายแล้ว การเพิ่มรายรับก็สำคัญไม่แพ้กัน ลองหางานพาร์ตไทม์หลังเลิกงานหรือวันหยุด เช่น รับงานฟรีแลนซ์ตามความถนัด ขายของออนไลน์ หรือใช้ทักษะพิเศษของคุณหารายได้เสริม เช่น ถ้าคุณเก่งภาษาอังกฤษ อาจรับสอนพิเศษหรือรับแปลเอกสาร การมีรายได้เพิ่มจะช่วยบรรเทาปัญหาเงินไม่พอใช้ได้อย่างมาก
4. เคลียร์หนี้สินที่มีให้หมด
หนี้สินเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาเงินไม่พอใช้ เพราะคุณต้องจ่ายทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ควรจัดลำดับความสำคัญในการชำระหนี้ โดยเริ่มจากหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงก่อน เช่น หนี้บัตรเครดิต พยายามจ่ายมากกว่ายอดขั้นต่ำทุกเดือน และหลีกเลี่ยงการก่อหนี้ใหม่โดยไม่จำเป็น เมื่อปลดหนี้ได้แล้ว เงินที่เคยใช้จ่ายเป็นดอกเบี้ยก็จะกลายเป็นเงินเก็บของคุณแทน
5. ตั้งเป้าหมายการเก็บออมเงิน
การมีเป้าหมายการออมที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจในการเก็บเงิน เริ่มจากการออมเงินอย่างน้อย 10% ของรายได้ทุกเดือน โดยหักเข้าบัญชีออมทรัพย์ทันทีที่ได้รับเงินเดือน ไม่ควรรอให้เหลือแล้วค่อยเก็บ เพราะมักจะไม่เหลือให้เก็บ ตั้งเป้าหมายการออมที่ท้าทายแต่เป็นไปได้ เช่น ออมเงินให้ได้ 3 เดือนของค่าใช้จ่ายภายในปีนี้ เพื่อเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน
6. รู้จักการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด
การใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดไม่ได้หมายถึงการตระหนี่ แต่หมายถึงการใช้จ่ายอย่างมีคุณค่าและคุ้มค่า เช่น เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อสินค้า ใช้คูปองส่วนลด รอโปรโมชั่นสำหรับสินค้าที่ไม่เร่งรีบ เลือกซื้อของที่มีคุณภาพดีแม้ราคาจะสูงกว่าเล็กน้อย แต่ใช้ได้นานกว่า มองหาทางเลือกที่ประหยัดกว่าแต่ยังคงคุณภาพ เช่น สินค้าแบรนด์ท้องถิ่นแทนแบรนด์นำเข้า
7. พัฒนาทักษะทางการเงิน
การเรียนรู้เกี่ยวกับการเงินอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้คุณจัดการเงินได้ดีขึ้น ศึกษาข้อมูลผ่านหนังสือ บล็อก หรือคอร์สออนไลน์เกี่ยวกับการบริหารเงินส่วนบุคคล การลงทุนเบื้องต้น หรือการวางแผนภาษี ความรู้เหล่านี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจทางการเงินได้ดีขึ้น และมองเห็นโอกาสในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว เมื่อมีความรู้ทางการเงินมากขึ้น ปัญหาเงินไม่พอใช้ก็จะห่างไกลคุณมากขึ้น
สรุปวิธีแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้
การแก้ปัญหาเงินไม่พอใช้ ไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากคุณมีระบบและวินัยทางการเงินที่ดี การบันทึกค่าใช้จ่าย ลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เพิ่มรายได้ จัดการหนี้สิน วางแผนออมเงิน และใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด จะช่วยให้คุณมีเงินพอใช้และเหลือเก็บมากขึ้น
สำหรับผู้ที่มีเรื่องเร่งด่วนจำเป็นต้องใช้เงิน สินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิสเป็นอีกทางเลือกที่อนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง* วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท* สมัครง่ายใช้เอกสารน้อย ไม่ต้องมีคนค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ย 15-25% ต่อปี กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว เพื่อให้คุณผ่านพ้นช่วงเวลาคับขันได้อย่างสบายใจ
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป