ก่อนกู้เงินด่วนต้องรู้ ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมาย คือเท่าไหร่

24/04/2568
การเงิน-ธุรกิจ

ก่อนกู้เงินด่วนต้องรู้ ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมาย คือเท่าไหร่

ในปัจจุบัน การกู้เงินด่วน* ถูกกฎหมายนั้นมีให้เลือกมากมาย พร้อมตอบโจทย์คนมีภาระด้านการเงินได้อย่างครอบคลุม และมีดอกเบี้ยถูกกฎหมายตามที่ภาครัฐกำหนดไว้ ซึ่งมีข้อดี คือ ช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับผู้กู้ เพราะมีกำหนดการผ่อนจ่ายที่ชัดเจน รวมไปถึงรายละเอียด และเงื่อนไขต่างๆ ที่ลงไว้อย่างครบถ้วน แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ในเชิงรายละเอียด วันนี้เราจะมาอธิบายให้ได้เข้าใจกัน

5 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยเงินกู้

การกำหนดดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมายในประเทศไทยนั้น มีกฎหมายและพระราชบัญญัติต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องหลายฉบับ แต่ละฉบับมีบทบาทในการควบคุมดูแลการคิดดอกเบี้ยในแต่ละสถานการณ์แตกต่างกันไป ซึ่งผู้กู้ควรศึกษาให้เข้าใจเพื่อไม่ให้ถูกเอาเปรียบ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ถือเป็นรากฐานสำคัญในการกำหนดดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมาย โดยมีสาระสำคัญดังนี้
มาตรา 7 ระบุว่า หากไม่มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ในสัญญา ให้คิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปี
มาตรา 654 กำหนดให้การกู้ยืมเงินตั้งแต่ 2,000 บาทขึ้นไป ต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ มิฉะนั้นจะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
มาตรา 655 ระบุว่าถ้ามีการตกลงให้มีดอกเบี้ย ต้องระบุอัตราดอกเบี้ยไว้เป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน

2. พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560

กฎหมายฉบับนี้มีวัตถุประสงค์โดยตรงในการควบคุมดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมาย โดยกำหนดให้บุคคลทั่วไปและนิติบุคคลที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

3. พระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551

พระราชบัญญัตินี้ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยในการกำกับดูแลการดำเนินงานของสถาบันการเงิน กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเปิดเผยข้อมูลดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมาย ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างชัดเจนและโปร่งใสแก่ผู้บริโภค

4. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อส่วนบุคคล โดยกำหนดให้ดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมาย รวมค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการอื่น ๆ (Effective Rate) สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลต้องไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี

5. พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)

พระราชบัญญัติฉบับนี้ให้ความคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการทำสัญญากู้เงิน โดยกำหนดให้สัญญาสำเร็จรูปต้องมีข้อความที่เป็นสาระสำคัญและเงื่อนไขที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ไม่เอาเปรียบผู้กู้ด้วยการกำหนดดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมายที่สูงเกินไป หรือมีเงื่อนไขแอบแฝงที่ไม่เป็นธรรม ทั้งนี้ คณะกรรมการว่าด้วยสัญญามีอำนาจกำหนดให้การกู้ยืมเงินบางประเภทต้องเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา

อัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนด

การเข้าใจอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายใหม่จะช่วยให้คุณมีความรู้ก่อนตัดสินใจกู้ยืมเงิน และไม่ตกเป็นเหยื่อของการเรียกเก็บดอกเบี้ยที่สูงเกินควร ซึ่งในประเทศไทยมีการกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สามารถเรียกเก็บได้ตามประเภทของการกู้ยืม ดังต่อไปนี้

อัตราดอกเบี้ยการกู้ยืมระหว่างบุคคล

สำหรับการกู้ยืมระหว่างบุคคลทั่วไป ดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมายสูงสุดไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หรือประมาณร้อยละ 1.25 ต่อเดือน หากมีการเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงกว่านี้ถือว่าผิดกฎหมายและอาจนำไปสู่การฟ้องร้องได้ เช่น การกู้เงินนอกระบบที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อเดือนหรือมากกว่า ถือเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดและมีความผิดตามพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา

อัตราดอกเบี้ยสำหรับสถาบันการเงิน

สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย เช่น ธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมายรวมถึงค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ (Effective Rate) สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอาจแตกต่างกันไปตามประเภทของสินเชื่อและนโยบายของแต่ละสถาบันการเงิน

ดอกเบี้ยผิดนัดและค่าปรับ

เมื่อผู้กู้ผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยผิดนัดเพิ่มจากดอกเบี้ยปกติได้ แต่ดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมายรวมค่าปรับต่าง ๆ ต้องไม่เกินอัตราสูงสุดที่กฎหมายกำหนด สำหรับการกู้ยืมระหว่างบุคคล ดอกเบี้ยผิดนัดไม่เกินร้อยละ 3 ต่อปีเพิ่มเติมจากอัตราดอกเบี้ยปกติ แต่รวมแล้วไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี
 

 

ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมาย ต้องคิดเท่าไหร่

ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมายตามที่ภาครัฐกำหนด จะต้องมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 15% ต่อปี หรือร้อยละ 1.25% ต่อเดือน แต่หากเป็นสถาบันทางการเงิน จะมีพระราชบัญญัติแยกออกมาอีกฉบับ ให้สามารถเรียกเก็บดอกเบี้ยเงินกู้ได้ไม่เกิน 25% ต่อปี

การทำสัญญากู้เงินที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร

สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะมีรายละเอียดในสัญญาการกู้ยืมที่ชัดเจน ไม่ใช่สัญญาปากเปล่า และเอกสารที่ใช้ร่างขึ้นจะต้องอิงตามระเบียบบังคับทางกฎหมายการกู้ยืมเงินเท่านั้น ส่วนรายละเอียดที่ต้องมีในสัญญาคืออะไรบ้าง เอาเช็กลิสต์นี้ไปดูกันได้เลย 

  • วันทำสัญญา
  • ชื่อผู้กู้/ชื่อผู้ให้กู้
  • จำนวนเงินกู้
  • กำหนดชำระคืน
  • อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล
  • ลายเซ็นผู้กู้
  • ลายเซ็นผู้ให้กู้
     

การทำสัญญากู้เงินที่ถูกต้อง ควรทำอย่างไร

สินเชื่อที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะมีรายละเอียดในสัญญาการกู้ยืมที่ชัดเจน ไม่ใช่สัญญาปากเปล่า และเอกสารที่ใช้ร่างขึ้นจะต้องอิงตามระเบียบบังคับทางกฎหมายการกู้ยืมเงินเท่านั้น ส่วนรายละเอียดที่ต้องมีในสัญญาคืออะไรบ้าง เอาเช็กลิสต์นี้ไปดูกันได้เลย 

  • วันทำสัญญา
  • ชื่อผู้กู้/ชื่อผู้ให้กู้
  • จำนวนเงินกู้
  • กำหนดชำระคืน
  • อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคล
  • ลายเซ็นผู้กู้
  • ลายเซ็นผู้ให้กู้

เช็กกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับดอกเบี้ยเงินกู้

การเข้าใจดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมายเริ่มต้นจากการรู้จักกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่เพียงแต่กำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงวิธีคิดดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่างๆ ที่ผู้ให้บริการทางการเงินต้องปฏิบัติตาม มาดูกันว่ามีกฎหมายอะไรบ้างที่คุณควรรู้

1. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

เป็นกฎหมายพื้นฐานที่วางกรอบเรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมาย โดยมาตรา 7 กำหนดว่าหากไม่ได้ตกลงอัตราดอกเบี้ยกันไว้ล่วงหน้าระหว่างคู่สัญญา ให้คิดที่ร้อยละ 3 ต่อปี นอกจากนี้ มาตรา 654 ยังระบุว่าการกู้ยืมเงินเกิน 2,000 บาท ต้องมีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อใช้ฟ้องร้องได้

2. พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560

กฎหมายฉบับนี้เป็นการควบคุมดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมายโดยตรง โดยกำหนดให้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เรียกเก็บดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี หากฝ่าฝืนมีโทษทั้งจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท ซึ่งนับเป็นการปกป้องผู้กู้จากการถูกเอาเปรียบอย่างเป็นรูปธรรม

3. พระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551

พ.ร.บ. นี้ให้อำนาจธนาคารแห่งประเทศไทยในการกำกับดูแลการคิดดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมายของสถาบันการเงิน โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ต้องเปิดเผยข้อมูลอัตราดอกเบี้ย ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใส เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลที่ชัดเจนก่อนตัดสินใจ

4. ประกาศธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารแห่งประเทศไทยมีบทบาทสำคัญในการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมาย โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีการจำกัดอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ และค่าธรรมเนียมรวมกันแล้วไม่เกินร้อยละ 25 ต่อปี (Effective Rate) ซึ่งเป็นการสร้างความเป็นธรรมให้แก่ผู้บริโภคในวงกว้าง

5. พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม)

ไม่เพียงแต่เรื่องดอกเบี้ยเงินกู้ตามกฎหมายเท่านั้น แต่ พ.ร.บ. นี้ยังให้ความคุ้มครองผู้บริโภคในด้านการทำสัญญาโดยรวม ทั้งยังกำหนดให้สัญญาสำเร็จรูปต้องมีข้อความและเงื่อนไขที่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ไม่เอื้อประโยชน์ให้ฝ่ายผู้ให้กู้มากเกินควร

ก่อนกู้เงิน ควรต้องพิจารณาอะไร ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อแหล่งเงินกู้นอกระบบ

หลังจากทราบถึงรายละเอียดในตัวสัญญากันไปแล้ว มีอะไรบ้างที่เราควรต้องตรวจเช็กทุกครั้ง ก่อนการกู้เงินด่วน ดอกเบี้ยถูกกฎหมาย มาไล่เรียงไปพร้อมกันดีกว่า 

  • เช็กเงื่อนไขอย่างละเอียด - เพราะสัญญาทางกฎหมายส่วนใหญ่ จะมีภาษาที่อ่านยากกว่าปกติ จึงต้องเช็กรายละเอียดให้ครบทุกบรรทัด เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนที่เห็นไม่ตรงกัน และกลายเป็นเสียผลประโยชน์โดยไม่รู้ตัว 
  • เช็กว่าเป็นเงินกู้นอกระบบหรือไม่ - แหล่งกู้เงินด่วนออนไลน์ในปัจจุบันนั้นมีให้เลือกเยอะกว่าในอดีต และยังมีดีไซน์เว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ ซึ่งบางครั้งอาจจะเป็นแหล่งเงินกู้นอกระบบได้เหมือนกัน สิ่งที่ควรทำก่อนตัดสินใจกู้ยืมเงินทุกครั้ง คือการเข้าไปเช็กที่เว็บ ธปท. ที่มีรายชื่อสถาบันทางการเงินกว่า 120 แห่ง ที่ผ่านการรับรองจากธนาคารแห่งประเทศไทย ในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลรายย่อยทั้งหมด 
  • เช็กการคิดดอกเบี้ย - อย่างที่น่าจะทราบกันไปตามด้านบน การคิดดอกเบี้ยจะต้องเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น ถ้าเกินกว่านั้นถือเป็นโมฆะ หากเป็นการกู้ยืมระหว่างบุคคลควรอยู่ที่ไม่เกิน 15% ต่อปี และหากเป็นสถาบันทางการเงิน ไม่ควรจะเกินที่ 25% ต่อปี

คำถามที่พบบ่อย

1. ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน ถูกกฎหมายไหม

ไม่ถูกกฎหมาย เพราะดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 60 ต่อปี ซึ่งเกินกว่าดอกเบี้ยกู้เงินถูกกฎหมายที่กำหนดไว้สูงสุดที่ร้อยละ 15 ต่อปีสำหรับการกู้ยืมระหว่างบุคคล และร้อยละ 25 ต่อปีสำหรับสถาบันการเงิน

2. ดอกเบี้ย 25 ต่อปี แพงไหม

อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 25 ต่อปีของพรอมิสเป็นไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด และได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับบริการสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีความยืดหยุ่นสูง ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และมีกระบวนการอนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง* เพื่อให้บริการทางการเงินที่ตอบโจทย์ความต้องการเร่งด่วนของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

3. พรอมิส ดอกเบี้ยเท่าไหร่

สินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิสมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ระหว่างร้อยละ 15-25 ต่อปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและคุณสมบัติของผู้กู้ อัตรานี้รวมถึงค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่าง ๆ แล้ว ซึ่งเป็นไปตามอัตราดอกเบี้ยตามกฎหมายใหม่ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
 

สรุปบทความ ก่อนกู้เงินด่วนต้องรู้ ดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมาย คือเท่าไหร่

สิ่งสำคัญที่สุดของการกู้เงินด่วน* แบบมีดอกเบี้ยที่ถูกกฎหมาย นอกจากรายละเอียด และเงื่อนไขต่างๆ ที่เราได้อธิบายไป แหล่งเงินกู้ที่น่าเชื่อถือ และดำเนินการตามข้อบังคับทางกฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทย ก็ยังเป็นแหล่งเงินกู้ที่ปลอดภัยที่สุด หากใครกำลังมองหาสินเชื่อส่วนบุคคล ดอกเบี้ยต่ำ 2568 อยู่ ตามไปดูกันได้เลย


กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว ดอกเบี้ย 15% - 25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสาร หรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป

Tags: เงินด่วน ดอกเบี้ยเงินกู้

พร้อมรู้กับพรอมิส