ชวนรู้จักการกู้เงินปิดหนี้หรือการรวมหนี้ เทคนิคสำคัญในการเคลียร์หนี้ที่ควรรู้
หากคุณกำลังมีปัญหาเรื่องหนี้สินหลายก้อน การกู้เงินปิดหนี้อาจเป็นทางออกที่ดีที่จะช่วยจัดการปัญหาทางการเงินของคุณ บทความนี้ Promise จะพาคุณทำความรู้จักกับกู้เงินปิดหนี้อย่างละเอียด พร้อมเทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้คุณจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กู้เงินปิดหนี้คืออะไร
กู้เงินปิดหนี้ คือการขอสินเชื่อก้อนใหม่เพื่อนำไปชำระหนี้ก้อนเก่าที่มีอยู่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถยนต์ หนี้บัตรเครดิต หรือหนี้นอกระบบ โดยจะรวมหนี้หลายก้อนให้เหลือเพียงก้อนเดียว พร้อมอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการชำระที่ดีกว่าเดิม ช่วยให้การบริหารจัดการหนี้สินง่ายขึ้น
ประเภทของสินเชื่อรวมหนี้
หลังจากที่ได้ทำความรู้จักกับการกู้เงินปิดหนี้กันไปแล้ว ซึ่งการกู้เงินปิดหนี้มีหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีข้อดีและความเหมาะสมแตกต่างกัน มาดูกันว่าประเภทของสินเชื่อรวมหนี้มีอะไรบ้าง
1. การรวมหนี้ต่างสถาบันการเงิน
เป็นการนำหนี้จากหลายสถาบันการเงินมารวมไว้ที่สถาบันการเงินใหม่แห่งเดียว ช่วยลดความยุ่งยากในการติดต่อหลายที่ และอาจได้อัตราดอกเบี้ยที่ดีกว่า
2. การรวมหนี้ภายในสถาบันการเงินแห่งเดียว
เป็นการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเดิมที่เราเป็นหนี้อยู่ วิธีนี้มักจะได้เงื่อนไขพิเศษและกระบวนการอนุมัติที่รวดเร็วกว่า เพราะสถาบันการเงินมีประวัติการชำระเงินของเราอยู่แล้ว
3. การรวมหนี้บ้านกับสินเชื่ออื่น ๆ
เป็นการนำสินเชื่อประเภทต่าง ๆ มารวมกับสินเชื่อบ้าน ซึ่งมักจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าสินเชื่อประเภทอื่น โดยทั่วไปจะได้อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 2% ต่อปีเพิ่มจากอัตราดอกเบี้ยบ้านปกติ
ข้อดีของการกู้เงินปิดหนี้
การตัดสินใจกู้เงินปิดหนี้นั้นมาพร้อมกับข้อดีหลายประการที่จะช่วยให้การจัดการภาระหนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
1. ลดอัตราดอกเบี้ย
การรวมหนี้หลายก้อนเข้าด้วยกันช่วยให้คุณได้รับอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยบัตรเครดิตหรือหนี้นอกระบบ การปรับโครงสร้างหนี้ผ่านสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
2. ขยายเวลาผ่อนชำระ
เมื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว คุณสามารถเจรจาขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระให้นานขึ้น ทำให้ภาระการผ่อนต่อเดือนลดลง เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้จำกัดหรือต้องการความยืดหยุ่นในการจัดการการเงิน
3. ป้องกันการเกิดหนี้เสีย
การจัดการหนี้ให้เป็นระบบช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดหนี้เสีย (NPL) ซึ่งจะส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตของคุณในระยะยาว การมีหนี้ก้อนเดียวทำให้การติดตามและชำระหนี้เป็นไปอย่างมีระบบมากขึ้น
4. รักษาประวัติเครดิตบูโร
ประโยชน์สำคัญอีกประการของการกู้เงินปิดหนี้คือการรักษาประวัติเครดิตบูโรให้ดี เมื่อคุณสามารถจัดการหนี้ได้อย่างเป็นระบบและชำระเงินตรงเวลา ประวัติเครดิตของคุณจะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น ส่งผลดีต่อโอกาสในการขอสินเชื่อในอนาคต และอาจช่วยให้ได้รับข้อเสนอทางการเงินที่ดีขึ้น
5. ลดค่างวดผ่อนต่อเดือน
การกู้เงินปิดหนี้ที่มีการขยายระยะเวลาและปรับโครงสร้างใหม่ จะช่วยลดภาระค่างวดรายเดือนลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้คุณมีเงินไว้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพิ่มขึ้น ลดความเครียดจากการเงินตึงตัว และช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยที่ยังคงสามารถชำระหนี้ได้อย่างต่อเนื่อง
6. รู้กำหนดเวลาปลดหนี้ที่ชัดเจน
ความชัดเจนในการวางแผนการเงินเป็นข้อดีที่สำคัญของการกู้เงินปิดหนี้ เมื่อคุณรวมหนี้เป็นก้อนเดียว คุณจะมีแผนการชำระที่ชัดเจนว่าเมื่อไหร่คุณจะปลดหนี้ได้หมด ทำให้สามารถวางแผนชีวิตทางการเงินในระยะยาวได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการปลดหนี้
ข้อจำกัดของการกู้เงินปิดหนี้หรือการรวมหนี้
แม้การกู้เงินปิดหนี้จะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาให้รอบคอบเช่นกัน
1. ในระยะยาวอาจจ่ายดอกเบี้ยรวมสูงขึ้น
หากคุณเลือกการกู้เงินปิดหนี้ที่ขยายระยะเวลาการผ่อนออกไปนานมาก แม้ค่างวดรายเดือนจะลดลง แต่ดอกเบี้ยรวมที่ต้องจ่ายตลอดอายุสัญญาอาจจะสูงขึ้นได้ ดังนั้นคุณควรคำนวณต้นทุนทางการเงินทั้งหมดก่อนตัดสินใจเลือกระยะเวลาในการผ่อนชำระที่เหมาะสม
2. ความเสี่ยงในการกลับไปสร้างหนี้เพิ่ม
ข้อจำกัดสำคัญของการกู้เงินปิดหนี้คือความเสี่ยงที่คุณอาจกลับไปสร้างหนี้ใหม่เพิ่มเติม โดยเฉพาะเมื่อบัตรเครดิตหรือวงเงินเดิมที่เคยใช้หมดไปแล้วกลับมาว่างอีกครั้ง หากไม่มีวินัยทางการเงินที่เข้มแข็งพอ อาจทำให้กลับไปมีภาระหนี้สินที่มากขึ้นกว่าเดิม
รู้ได้อย่างไรว่าต้องกู้เงินปิดหนี้หรือการรวมหนี้
สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณควรพิจารณาการกู้เงินปิดหนี้ ได้แก่
- มีหนี้หลายก้อนที่มีอัตราดอกเบี้ยแตกต่างกัน
- เริ่มมีปัญหาในการจัดการการชำระหนี้แต่ละเดือน
- ภาระผ่อนรวมต่อเดือนสูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้
- ต้องการลดภาระดอกเบี้ยโดยรวม
- ต้องการความเป็นระเบียบในการจัดการหนี้
ข้อควรรู้ก่อนกู้เงินปิดหนี้หรือการรวมหนี้
ก่อนตัดสินใจกู้เงินปิดหนี้ ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้
- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง (Effective Rate) พิจารณาค่าธรรมเนียมการชำระก่อนกำหนด และศึกษาค่าใช้จ่ายแฝงอื่น ๆ
- ประเมินความสามารถในการผ่อน คำนวณรายได้และค่าใช้จ่ายประจำอย่างละเอียด พิจารณาภาระผ่อนที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว รวมทั้งวางแผนสำรองกรณีมีเหตุฉุกเฉิน
- เตรียมเอกสารให้พร้อม เช่น บัตรประชาชนและทะเบียนบ้าน เอกสารแสดงรายได้ Statement บัญชีย้อนหลัง 6 เดือน และรายละเอียดภาระหนี้ปัจจุบัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อแต่ละเจ้ากำหนด
วิธีการคำนวณหนี้สินก่อนกู้เงินปิดหนี้
การคำนวณภาระหนี้อย่างละเอียดเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนตัดสินใจกู้เงินปิดหนี้ โดยมีสูตรคำนวณที่สำคัญดังนี้
อัตราส่วนภาระหนี้ต่อรายได้ (Debt Service Ratio: DSR)
DSR = (ภาระหนี้รายเดือน ÷ รายได้ต่อเดือน) × 100
ตัวอย่างการคำนวณ
- รายได้ต่อเดือน = 45,000 บาท
- ภาระผ่อนบ้าน = 12,000 บาท
- ผ่อนรถ = 8,000 บาท
- บัตรเครดิต = 5,000 บาท
- รวมภาระหนี้ = 25,000 บาท
DSR = (25,000 ÷ 45,000) × 100 = 55.56%
ในกรณีนี้ DSR สูงกว่า 50% แสดงว่าควรพิจารณากู้เงินปิดหนี้เพื่อลดภาระผ่อนรายเดือน เพราะมาตรฐานที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 40%
การคำนวณดอกเบี้ยรวม ควรเปรียบเทียบดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายระหว่างการผ่อนชำระแยกแต่ละก้อน และการรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ซึ่งจะช่วยให้เห็นภาพชัดเจนว่าการกู้เงินปิดหนี้จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากน้อยเพียงใด
สรุปการกู้เงินปิดหนี้หรือการรวมหนี้
การกู้เงินปิดหนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการจัดการภาระหนี้ให้เป็นระบบ แต่ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่การได้รับอนุมัติสินเชื่อเท่านั้น สิ่งสำคัญคือการวางแผนและวินัยทางการเงินในระยะยาว
สินเชื่อส่วนบุคคล Promise ตัวช่วยปิดหนี้นอกระบบ
สินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิสเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ โดยเฉพาะหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง ด้วยจุดเด่นที่สำคัญ เช่น วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท* อัตราดอกเบี้ยที่เริ่มต้นที่ 15% และสูงสุดไม่เกิน 25% ต่อปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และที่สำคัญคือความรวดเร็วในการอนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง*
เอกสารที่ต้องเตรียม
การเตรียมเอกสารให้พร้อมจะช่วยให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อเป็นไปอย่างราบรื่น สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิส เอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้
บัตรประชาชนตัวจริง
สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 2 เดือนล่าสุด หรือหนังสือรับรองเงินเดือนอายุไม่เกิน 60 วัน
ขั้นตอนการสมัคร
การสมัครสินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิสทำได้ง่าย ๆ ตามขั้นตอนดังนี้
กรอกแบบฟอร์มออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
ยื่นเอกสารประกอบการพิจารณาตามที่กำหนด
รอการพิจารณาสินเชื่อ
เมื่อได้รับการอนุมัติ เงินจะถูกโอนเข้าบัญชีของคุณ
นำเงินที่ได้รับไปชำระหนี้ตามแผนที่วางไว้
สรุปบทความ
Promise พร้อมเป็นพันธมิตรทางการเงินที่จะช่วยคุณจัดการภาระหนี้ให้เป็นระบบ ด้วยผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมทีมงานมืออาชีพที่จะให้คำปรึกษาและวางแผนการจัดการหนี้ที่เหมาะสมกับคุณ ติดต่อ Promise ได้ที่สาขาทั่วประเทศ หรือสมัครออนไลน์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน เพื่อรับบริการสินเชื่อที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณอย่างแท้จริง
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป