โดนใบสั่งถึงบ้าน ต้องจ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์อย่างไร?
เมื่อซองจดหมายสีน้ำเงินจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาถึงบ้าน หลายคนคงใจหายวาบ นั่นเพราะรู้ดีว่าอาจเป็นใบสั่งจราจรที่ส่งมาถึงบ้าน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะปัจจุบันการจ่ายค่าปรับออนไลน์ทำได้สะดวกรวดเร็ว ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปสถานีตำรวจให้เสียเวลา มาทำความเข้าใจวิธีการจ่ายค่าปรับออนไลน์ที่ถูกต้องกันดีกว่า
ใบสั่งจราจรคืออะไร?
ใบสั่งจราจรคือเอกสารที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออกให้แก่ผู้ที่กระทำผิดกฎจราจร โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก คือ ใบสั่งที่ออกโดยเจ้าหน้าที่โดยตรงตอนเรียกตรวจ และใบสั่งอัตโนมัติที่ออกจากระบบกล้องตรวจจับแล้วส่งมาทางไปรษณีย์ ซึ่งในใบสั่งจะระบุรายละเอียดการกระทำผิด วันเวลา สถานที่ และค่าปรับที่ต้องชำระ
สาเหตุที่ทำให้ได้รับใบสั่ง
สาเหตุหลักที่ทำให้ได้รับใบสั่งจราจรส่งถึงบ้านมีหลายเหตุผล ได้แก่
- การขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ถูกตรวจจับด้วยกล้องตรวจจับความเร็ว
- การฝ่าฝืนสัญญาณไฟจราจร ถูกบันทึกด้วยกล้องตรวจจับการฝ่าฝืนสัญญาณไฟ
- การจอดรถในที่ห้ามจอด ซึ่งมีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้
- การไม่สวมหมวกนิรภัยหรือไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ที่ตรวจจับได้ด้วยระบบกล้องอัจฉริยะ
ระยะเวลาที่ต้องดำเนินการหลังได้รับใบสั่ง
เมื่อได้รับใบสั่งจราจร คุณควรดำเนินการภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้รับ หากไม่ชำระภายในกำหนด อาจถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม รวมถึงการอายัดการต่อทะเบียนรถประจำปี ซึ่งจะสร้างความยุ่งยากในภายหลัง ดังนั้นการจ่ายค่าปรับออนไลน์โดยเร็วจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้
วิธีตรวจสอบใบสั่งผ่านเว็บไซต์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ก่อนทำการจ่ายค่าปรับออนไลน์ คุณสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งได้อย่างละเอียดผ่านระบบออนไลน์ดังนี้
- เข้าไปที่เว็บไซต์ ptm.police.go.th/eTicket
- ลงทะเบียนด้วยเลขประจำตัวประชาชนหรือเลขที่ใบขับขี่
- เข้าสู่ระบบและเลือกเมนู "ตรวจสอบใบสั่ง"
- กรอกข้อมูลที่ต้องการค้นหา เช่น เลขทะเบียนรถ
- ตรวจสอบรายละเอียดใบสั่งที่ปรากฏในระบบให้ถูกต้อง
วิธีจ่ายค่าปรับออนไลน์ง่าย ๆ ด้วยตนเอง
การจ่ายค่าปรับออนไลน์ในปัจจุบันมีหลายช่องทางที่สะดวกและปลอดภัย ช่วยประหยัดเวลาไม่ต้องเดินทางไปชำระที่สถานีตำรวจ คุณสามารถเลือกช่องทางที่สะดวกที่สุดได้ตามความต้องการ
1. จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง"
วิธีการจ่ายค่าปรับออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" มีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้
- เปิดแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" บนสมาร์ตโฟน
- เลือกเมนู "G-Wallet" และต่อด้วย "จ่ายบิล"
- เลือกหมวดหมู่ "ค่าปรับจราจร"
- กรอกเลขที่ใบสั่งและเลขบัตรประชาชนของผู้กระทำผิด
- ตรวจสอบยอดค่าปรับให้ถูกต้อง
- กดยืนยันการชำระเงินและรอรับใบเสร็จอิเล็กทรอนิกส์
2. จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน "Krungthai NEXT"
สำหรับลูกค้าธนาคารกรุงไทย สามารถจ่ายค่าปรับออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน "Krungthai NEXT" ได้ดังนี้
- เข้าสู่แอปพลิเคชัน "Krungthai NEXT"
- เลือกเมนู "จ่ายบิล" ในหน้าหลัก
- ค้นหาและเลือก "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ - ค่าปรับจราจร"
- กรอกเลขที่ใบสั่ง 13 หลักและเลขบัตรประชาชน
- ตรวจสอบจำนวนค่าปรับที่ต้องชำระให้ถูกต้อง
- ยืนยันการชำระเงินและเก็บหลักฐานการทำรายการ
3. จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน "Mobile Banking"
การจ่ายค่าปรับออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Mobile Banking ของธนาคารต่าง ๆ ทำได้โดย
- เปิดแอปพลิเคชัน Mobile Banking ที่คุณใช้อยู่
- เลือกฟังก์ชันสแกน QR Code
- สแกน QR Code ที่ปรากฏบนใบสั่งจราจร
- ตรวจสอบชื่อผู้รับเงินต้องเป็น "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เท่านั้น
- ยืนยันจำนวนเงินค่าปรับที่ต้องชำระ
- ทำรายการชำระเงินและเก็บหลักฐานการชำระ
4. จ่ายค่าปรับจราจรออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน "KHUB DEE"
อีกหนึ่งช่องทางที่สะดวกในการจ่ายค่าปรับออนไลน์คือแอปพลิเคชัน "KHUB DEE" โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน "KHUB DEE"
- ลงทะเบียนและเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลส่วนตัว
- เลือกเมนู "ตรวจสอบใบสั่ง" เพื่อค้นหาข้อมูลใบสั่ง
- เลือกใบสั่งที่ต้องการชำระ
- เลือกวิธีการชำระเงินผ่าน QR Code
- ทำรายการชำระเงินให้เสร็จสมบูรณ์
สรุปการจ่ายค่าปรับออนไลน์
การจ่ายค่าปรับออนไลน์เป็นทางเลือกที่สะดวกรวดเร็วสำหรับผู้ที่ได้รับใบสั่งจราจร ช่วยประหยัดเวลาและลดความยุ่งยากในการเดินทาง ด้วยช่องทางที่หลากหลาย ทำให้คุณสามารถชำระค่าปรับได้ทุกที่ทุกเวลา และหากคุณมีเรื่องด่วนต้องใช้เงิน สินเชื่อส่วนบุคคลพรอมิสพร้อมช่วยเหลือด้วยการอนุมัติทันใจใน 1 ชั่วโมง* วงเงินสูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท* เพียงสมัครง่าย ๆ ด้วยเอกสารไม่กี่ฉบับ แต่อย่างไรก็ตาม กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวเท่านั้น
กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว
ดอกเบี้ย 15%-25% ต่อปี
*กรุณาศึกษาข้อมูลผลิตภัณฑ์ก่อนการสมัครที่ promise.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ และธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด
*หากยื่นเอกสารครบถ้วนภายใน 18:00 น. และไม่มีเหตุขัดข้องด้านเอกสารหรือระบบ จะสามารถอนุมัติได้ภายใน 1 ชั่วโมง หรือภายในวันถัดไป