รวมทางออกรีไฟแนนซ์-รวมหนี้ให้ดอกเบี้ยต่ำลง

25/07/2568
สินเชื่อน่ารู้

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นทุกวัน เงินเดือนเท่าเดิมแต่รายจ่ายมากขึ้น เป็นเรื่องปกติที่หลายคนจะมีหนี้สินติดตัว ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้ผ่อนของ หรือสินเชื่อเงินสด ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วอาจทำให้รู้สึกว่ารับภาระไม่ไหว หรือหมดเงินไปกับหนี้แทบทั้งเดือน

 

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่รู้สึกแบบนี้ อย่าเพิ่งท้อใจครับ เพราะมี “ทางออก” ที่ช่วยให้คุณเบาใจได้ และยังเป็นวิธีที่คนจำนวนมากหันมาใช้กันมากขึ้น นั่นก็คือ การรีไฟแนนซ์ (Refinance) และ การรวมหนี้ (Debt Consolidation)

รีไฟแนนซ์คืออะไร?

รีไฟแนนซ์ คือ การย้ายหนี้จากเจ้าหนี้เดิมไปยังเจ้าหนี้ใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยต่ำกว่า หรือเงื่อนไขที่ดีกว่า เช่น ผ่อนนานขึ้น ค่างวดต่อเดือนลดลง เพื่อให้ผู้กู้สามารถจัดการกับหนี้ได้ง่ายขึ้น และลดภาระทางการเงินโดยรวม

 

ตัวอย่างที่พบได้บ่อย เช่น การรีไฟแนนซ์บ้านจากธนาคารเดิมที่ดอกเบี้ยสูง ไปยังธนาคารใหม่ที่เสนอโปรดอกเบี้ยพิเศษสำหรับ 3 ปีแรก หรือการรีไฟแนนซ์สินเชื่อส่วนบุคคลที่ดอกเบี้ย 18% ไปสู่เจ้าใหม่ที่ให้เพียง 9.99%

รวมหนี้คืออะไร?

รวมหนี้ คือ การนำหนี้หลายก้อนมารวมไว้เป็นก้อนเดียว เช่น หนี้บัตรเครดิต 3 ใบ + หนี้เงินสด 1 ก้อน รวมมาไว้ในสินเชื่อเดียว ผ่อนกับสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียว

จุดประสงค์หลักของการรวมหนี้ คือ

  • ลดดอกเบี้ยจากหลายเจ้า
  • ลดความยุ่งยากในการชำระหนี้
  • วางแผนการผ่อนจ่ายได้ง่ายขึ้น

บางครั้งผู้ให้บริการเรียกการรวมหนี้นี้ว่า “สินเชื่อเพื่อปิดบัตร” หรือ “สินเชื่อเพื่อรวมหนี้บัตรเครดิต”

แล้วใครควรใช้วิธีรวมหนี้ – รีไฟแนนซ์?

หากมีอาการเหล่านี้ ลองพิจารณารีไฟแนนซ์หรือรวมหนี้

  • มีหนี้หลายก้อน หลายเจ้า
  • ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายรวมกันสูงมาก
  • เริ่มจ่ายขั้นต่ำในแต่ละเดือน เพราะเงินไม่พอ
  • จ่ายหนี้แล้วไม่เห็นยอดลด
  • ต้องการวางแผนการเงินให้มีเป้าหมายที่ชัดเจนขึ้น

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการรวมหนี้ – รีไฟแนนซ์

1. ดอกเบี้ยลดลงทันที

ถ้าคุณกำลังจ่ายดอกเบี้ยบัตรเครดิต 18–20% แล้วเปลี่ยนมาใช้สินเชื่อที่ดอกเบี้ย 9–12% ก็เหมือนได้ลดดอกทันทีครึ่งหนึ่ง

2. ค่างวดรายเดือนลดลง

การขยายระยะเวลาผ่อน หรือรวมยอดหนี้มาเป็นก้อนเดียว จะช่วยให้ค่างวดรายเดือนต่ำลง เหลือเงินใช้จ่ายได้มากขึ้น

3. ผ่อนรายเดียว ไม่สับสน

ไม่ต้องคอยจำว่าวันไหนจ่ายหนี้เจ้าไหน แค่ผ่อนกับรายเดียวก็จบ ลดความเสี่ยงลืมจ่ายหรือผิดนัด

4. วางแผนได้ง่ายขึ้น

คุณจะเห็นเป้าหมายชัดขึ้น เช่น รู้ว่ายอดหนี้ทั้งหมดคือเท่าไร ต้องผ่อนเดือนละเท่าไร และจะหมดภายในกี่เดือน

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจก่อนรวมหนี้ – รีไฟแนนซ์

แม้ว่าการรีไฟแนนซ์หรือรวมหนี้จะดูเหมือนทางลัดที่ดี แต่ก็ควรพิจารณาให้รอบคอบ

  • ต้องมีประวัติเครดิตที่ดีพอสมควร
  • หากเคยผิดนัดจ่ายบ่อย หรือสถานะในเครดิตบูโรไม่ดี อาจยากในการอนุมัติ
  • อย่าลืมเช็กค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าธรรมเนียมการปิดหนี้เก่า ค่าดำเนินการ ค่าประเมิน หรือประกัน
  • อย่ากลับไปก่อหนี้ใหม่
  • ถ้ารวมหนี้เรียบร้อยแล้ว แล้วกลับไปรูดบัตรเต็มวงเงินอีก ก็จะยิ่งแย่กว่าเดิม

อยากรวมหนี้ – รีไฟแนนซ์ ต้องเริ่มยังไง?

  1. ตรวจสอบยอดหนี้ทั้งหมดที่คุณมี
  2. รวบรวมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น สลิปเงินเดือน สเตทเมนต์
  3. เปรียบเทียบข้อเสนอจากผู้ให้บริการสินเชื่อหลายแห่ง
  4. ยื่นขอสินเชื่อที่เหมาะสมกับสถานะทางการเงินของคุณ

ทางออกรีไฟแนนซ์-รวมหนี้

สรุปการรวมหนี้ – รีไฟแนนซ์

การรีไฟแนนซ์และรวมหนี้คือเครื่องมือทางการเงินที่ดี ถ้าใช้ให้ถูกเวลาและถูกวิธี ไม่ใช่แค่ช่วยลดภาระในแต่ละเดือน แต่ยังช่วยให้เราวางแผนอนาคตได้ชัดขึ้น

 

ถ้ารู้สึกว่าหนี้เริ่มทำให้ชีวิตติดขัด ลองเริ่มต้นวางแผนใหม่ด้วยการตรวจสอบยอดหนี้ ปรึกษาผู้ให้บริการ และเลือกทางที่เหมาะกับคุณที่สุด แล้จะพบว่า “การปลดหนี้” ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด

Tags: การรวมหนี้ การรีไฟแนนซ์ การบริหารหนี้

พร้อมรู้กับพรอมิส